วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ข้อคิด-คติธรรม

พาลีสอนน้อง







                                        เจ้าจะอยู่เป็นข้าพระทรงจักร                  จงพิทักษ์รักษากันอาหลาน
                                        หมั่นเฝ้าเช้าเย็นเป็นนิจกาล                    อย่าเกียจคร้านแต่ตามอำเภอใจ
                                        สิ่งใดพระองค์จะตรัสถาม                       อย่าเบาความเพ็ดทูลแต่โดยได้
                                        อย่าแต่งตัวโอ่อวดพระทรงชัย                ที่ในพระโรงรัตนา
                                        หมอบเฝ้าอย่าก้มอย่าเงยหงาย              อย่าเตร่ดตร่ายเหลือบแลซ้ายขวา
                                        พระที่นั่งบัลลังก์อลงการ์                        อย่าฝ่าฝืนขึ้นนั่งอิงองค์
                                        อันฝูงพระสนมนางใน                            อย่าผูกจิตพิศมัยใหลหลง
                                        จงภักดีต่อใต้บาทบงสุ์                           อย่าทะนงว่าทรงพระเมตตา
                                        แขกเมืองอย่าบอกความลับ                   อย่าสนิทคำนับคบหา
                                        อันรางวัลให้ปันเสนา                              อย่ามีใจฉันทาทัดทาน
                                        แม้นกริ้วโกรธลงโทษผู้ใด                      อย่าใส่ใจยุยงจงผลาญ
                                        อาสาเจ้าตนตัวตาย                               จึ่งนับว่าเป็นชายชาญสนาม
                                        เจ้าจงจำคำทำตาม                                ก็จะจำเริญความ... สวัสดีฯ




สิ่งใดในโลกล้วน                เปลี่ยนแปลง
หนึ่งชราหย่อนแรง              เร่งร้น
ความตายติดตามแสวง      ทำชีพ ประลัยเฮย
สามส่วนควรคิดค้น             คติรู้เตรียมคอยฯ

บุญเดิมเสริมส่งให้             ได้ดี
บุญยิ่งทำยิ่งทวี                  เพริศพริ้ง
บุญยิ่งมากยิ่งมี                  ความสุข
บุญติดตามไม่ทิ้ง               เช่น  เค้าเงาตนฯ


 เอาธรรมะยึดมั่น               ไว้กันบาป
เหมือนกุหลาบมีราก          ยึดต้นได้
จงทำดีมีไว้                       ให้เหมือนเงา
ตามตัวเราทุกกาล             ที่ผ่านไป

ชั่วชีวิตคิดตรองมองดูเถิด                    ตั้งแต่เกิดจนตายกลายเป็นผี
ย่อมประสบสิ่งทรามและความดี           ตามวิถีแห่งกรรมที่ทำมา 
อย่าครวญโอดโทษใครในยามทุกข์     จงปลอบปลุกจิตใจให้แกล้วกล้า
ใช่ชีวิตพรหมลิขิตขีดชะตา                  ตนนั้นหนาที่ลิขิตชีวิตตน

อันทรัพย์สินถิ่นฐานทั้งบ้านช่อง          อีกเงินทองไร่นามหาศาล
เป็นสมบัติของตัวไม่ชั่วกาล                จำต้องผ่านจากกันเมื่อวันตาย
ส่วนความดีมีความสัตย์สมบัติแท้       ถึงตัวแก่กายดับไม่ลับหาย
จะสถิตติดแน่นแทนร่างกาย                ถึงตัวตายชื่อยังอยู่เชิดชูเอย

ป่าเอ๋ยป่าช้า                                        เป็นศาลาหลังสุดท้ายของชายหญิง
มีอำนาจชาติยศปรากฎจริง                 ตายนอนนิ่งให้เขาเผาเท่าเทียมกัน
เมื่อไม่ตายต่างวุ่นวายหมายของข้า    เพราะตัณหาพาความคิดให้ผิดผัน
ในที่สุดหยุดแค่ตายคล้ายคลึงกัน       อย่าหุนหันดันดื้อถือดีเอย

อันหนทางชีวิต คิดดูเถิด                     เมื่อเราเกิดแล้วต้องแก่ แน่ใช่ไหม
หนีไม่พ้นเจ็บไข้ กายและใจ                จะแก้ไขอย่างไร ให้ทุกข์คลาย

เป็นโรคกายหมอยา รักษาโรค            ถูกโฉลกถูกเหตุผล ดลโรคหาย
เป็นโรคใจภัยรุมเร้า เศร้าปางตาย       ทุกข์มลายเมื่อรู้ใช้ โอสถธรรม
เติมธรรมะให้ชีวิตพิชิตโรค                 ดับทุกข์โศกดับตัณหาอย่าถลำ
ดับกิเลสโลภโกรธหลงจงหมั่นจำ       ยึดพระธรรมพระศาสดาเป็นยาใจ

เมื่อแรกเชื่อว่าเป็นเนื้อทับทิมแท้        มาแปรเป็นพลอยหุงไปเสียได้ 
กาลวงว่าหงส์ให้ปลงใจ
                     ด้วยมิได้ดูหงอนแต่ก่อนมา 
คิดว่าหงส์จึงได้หลงด้วยลายย้อม
      ช่างแปลงปลอมท่วงทีดีนักหนา 
พอลับถิ่นมุจรินทร์ก็คลาดคลา
           พอลับตาฝูงหงส์ก็ลงโคลนฯ


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน         ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี
ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี           ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน

หาสุขในกองทุกข์ ไม่ได้สุขก็บ่นไป   หาเย็นในกองไฟ เมื่อไม่ได้ก็คร่ำครวญ
หาสิ่งที่ไม่มี ก็แปลกดีมันน่าสรวล     ร่ำไห้พิไรหวล น่าหัวร่อจริงหนอเรา


สุขทุกข์อยู่ ที่ใจ มิใช่หรือ                  ถ้าใจถือ ก็เป็นทุกข์ ไม่สุกใส
ถ้าไม่ถือ ก็เป็นสุข ไม่ทุกข์ใจ            เราอยากได้ ความสุข หรือทุกข์นาฯ

อดีตกาล ผ่านไป ไม่กลับหลัง           อนาคต ก็ยัง มาไม่ถึง
ปัจจุบัน สำคัญ ควรคำนึง                  ตรองให้ซึ้ง คุณความดี มีหรือยังฯ

คนประมาท เสียใจ เมื่อใกล้ม้วย      เนื่องด้วย ไม่ทันสร้าง ทางสวรรค์
สร้างเมื่อเจ็บ ใกล้ตาย มักไม่ทัน     พึงรีบสร้าง ทางไว้พลัน นั่นแหละดี
อย่าดูถูก บุญกรรม ว่าทำน้อย          จะไม่ต้อย ตามต้อง สนองผล
เหมือนตุ่มน้ำ วางหงาย รับสายชล   ย่อมเต็มล้น ด้วยอุทก ที่ตกลงฯ


อันความดี ทำไว้ กับใครนั้น            ไม่มีวัน ลับหาย ในภายหน้า
กายอาจเลือนลับหายจากสายตา    ดีไม่ลา ลับหาย จากสายใจฯ


อันยศศักดิ์ชื่อเสียงเพียงความฝัน      ฝ่ายรูปโฉมโนมพรรณฉันบุปผา
อันชีวิตเปรียบหมายเหมือนสายฟ้า    อนิจจาไม่ได้มีจีรังกาล
อันคืนวันพลันดับลงลับล่วง               ท่านทั้งปวงอุตส่าห์สร้างทางกุศล
แก่ลงแล้วรำพึงถึงตัวตน                    อายุคนนั้นไม่ยืนถึงหมื่นปีฯ

วันเดือนปีที่ผ่านไปคล้ายความฝัน     ชีวิตพลันหมดไปน่าใจหาย
มวลญาติมิตรเงินทองของมากมาย    ต้องมลายจากกันเหมือนฝันเอยฯ

ธรรมดาของสังขารคือการดับ            ไม่มีกลับคืนเป็นเช่นลมหวน
เป็นของจริงจงจำอย่าคร่ำครวญ         สิ่งที่ควรเร่งทำคือกรรมดี
อย่าทนทุกข์กับอดีตอันขมขื่น            อย่าเริงรื่นอนาคตอันสดใส
ปัจจุบันย่อมสำคัญกว่าสิ่งใด               ถ้าตั้งใจไว้พอดีมีสุขเอย

ความสุขก็ ยึดไว้ ไม่ได้ดอก                ความทุกข์ก็ หลอกหลอก จริงที่ไหน
ทุกทุกสิ่งเพียงผ่านมาแล้วลาไกล       เหลือไว้แต่ ความว่าง อย่างนั้นเอง

ยศและลาภ หาบไป ไม่ได้แน่              มีเพียงแต่ ต้นทุน บุญกุศล
ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ ให้ปวงชน             แม้ร่างตน เขาก็เอา ไปเผาไฟ
 

เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า              เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
เจ้ามามือเปล่า เจ้าจะ เอาอะไร           เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา

เราเกิดมา เวียนวน ในสงสาร              แสนช้านาน ยิ่งนัก ทุกข์หนักหนา
จนกับมี ดีกับชั่ว พัวพันมา                   เหลือระอา ถ้าจะนับ อัปประมาณฯ



หากนับถือพุทธองค์เพียงองค์พระ        แต่ธรรมะมิสดับย่อมสับสน 
กราบไหว้พระเพียงเห็นเป็นมงคล
         ฤาพาตนพ้นกิเลสอาเพทภัย

ท่านเอาพระคล้องคอพอแล้วหรือ        ท่านยึดถือแน่วแน่สักแค่ไหน 
พระคล้องคอเป็นประจำคล้องทำไม
     สู้เอาพระคล้องใจมิได้เลย 
ชนะอื่นหมื่นแสนแม้นร้อยครั้ง              แต่ถ้ายังแพ้กิเลสและเหตุผล 
ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าปัญญาชน
                 ผู้ข่มจิตพิชิตตนเพียงหนเดียว

อย่าดูหมิ่นบุญกรรมจำนวนน้อย           มันจะคอยตามต้องสนองผล 
เหมือนตุ่มใหญ่เปิดหงายรับสายชล
      ย่อมเต็มล้นด้วยอุทกที่ตกลง 
สาธุชน สั่งสม บ่มบุญบ่อย
                   ทีละน้อย แนบไว้ มิไหลหลง 
บุญนั้นย่อม เต็มพลัน ด้วยมั่นคง
          กุศลส่ง สู่สถาน นิพพานเอย 




อันรูปรสกลิ่นเสียงนั้นเพียงหลอก        ไม่จริงดอกอวิชชาพาให้หลง 
อย่าลืมนะร่างกายไม่เที่ยงตรง             ไม่ยืนยงทรงอยู่คู่ฟ้าเอย 

ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา               จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร         แค่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอฯ



เกิด  มาแล้วบ่ายหน้า ไปไหน
แก่   บอกว่าบ่ายไป สู่ม้วย
เจ็บ  ว่าไม่เป็นไร เราช่วย ซ้ำนา
ตาย ว่าข้าเอาด้วย ห่อนให้ ใครเหลือ


อย่ารักเหากว่าผม อย่ารักลมกว่าน้ำ 
อย่ารักถ้ำกว่าเรือน อย่ารักเดือนกว่าตะวัน
อย่ารักห่างกว่าชิด

ปลาร้าพันห่อด้วย    ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา
  คละคลุ้ง
คือคนหมู่ไปหา
       คบเพื่อน พาลนา 
ได้แต่รายร้ายฟุ้ง
     เฟื่องให้เสียพงษ์

มนุษย์สัมพันธ์     สร้างได้     ใช่ยากนัก
ถ้ารู้จัก     การให้     มักได้ผล
ให้อภัย
     ให้ความรัก     ให้เกียรติคน
อย่ายกตน
     ข่มใคร     มักไม่ดี
ไม่กล่าวโทษ
     ผู้ใด     ให้หมองศรี
รู้คุณคน
     แทนคุณท่าน     ในทันที
อย่าย่ำยี
     เหยียดหยาม     ประณามคน
เริ่มด้วยเรา
     จริงใจ     ให้เขาก่อน
ผลสท้อน
     ก็จะมี     ทวีผล
ยิ่งตัวเรา
     เอาใจเขา     ใส่ใจตน
จะเกิดผล
     มากมิตร     สนิทนาน 



ร้อยคำพูด  ไม่เท่าหนึ่งมือทำ

ปลูกต้นไม้บำรุงราก ปลูกฝังคุณธรรมต้องบำรุงจิตใจ

คุณธรรมความดีไม่ได้อยู่ที่ลิ้น แต่เก็บไว้ในใจ

ใคร่ครวญต้องช้าๆ ลงมือทำต้องรวดเร็ว

คนที่มีปัญญาเห็นแก่ตัว สู้คนโง่ทำเพื่อส่วนรวมไม่ได้

ระวังการใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ รูรั่วเล็กๆ อาจจมเรือใหญ่โตได้

โรคภัยเข้าทางปาก ภัยวิบัติก็ออกจากปาก

ความขี้เกียจคือสุสานฝังคนทั้งเป็น

ความจนเป็นทุกข์ในโลก.....การกู้หนี้เป็นทุกข์เช่นกัน

สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์อย่างยิ่ง.....ผู้แพ้ย่อมนอนเป็นทุกข์

ทุกข์เสมอด้วยเบญจขันธ์ไม่มี.....การเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์ร่ำไป

ไม่พบคนที่รักก็เป็นทุกข์.....พบคนไม่รักก็เป็นทุกข์

ครองเรือนไม่ดีก็เป็นทุกข์.....อยู่ร่วมกับคนไม่เสมอกันก็เป็นทุกข์

กามทั้งหลายมีสุขน้อยมีทุกข์มาก.....ความทุกข์เกิดขึ้นบ่อยๆ

คนมีตัณหาเป็นทุกข์บ่อยและนาน.....เมื่อหมดกังวลทุกข์ก็ไม่มี

การสะสมบาปเป็นทุกข์.....ผู้ฉลาดพึงละทุกข์ในโลกนี้ให้ได้

กามมีความคับแค้นเป็นราก มีทุกข์เป็นผล.....ทุกข์เป็นภัยใหญ่ของโลก

โลกตั้งอยู่บนฐานแห่งความทุกข์.....คนโง่ย่อมได้รับทุกข์บ่อยๆ

ทุกข์เท่านั้นเกิดทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่.....ทุกข์เท่านั้นดับไป

นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิด.....นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับ

เป็นคนพึงทำทุกข์ให้หมดไปให้ได้.....การสะสมบุญนำสุขมาให้

ผู้ดื่มธรรมย่อมอยู่เป็นสุข.....พอใจเท่าที่มีความสุข

บุญให้ความสุขเมื่อถึงคราวตาย.....ละทุกข์ทั้งปวงได้เป็นความสุข

นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง.....สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น